ส่วนผสม
1. ถั่วเหลืองเม็ดใหญ่ 1 กิโลกรัม
2. น้ำเปล่า 1 ½ กิโลกรัม
3. น้ำตาลทราย ½ กิโลกรัม
วิธีทำ
1. นำถั่วเหลืองที่เตรียมไว้นำไปล้างน้ำ 2 ครั้ง และแช่น้ำสะอาดประมาณ 2 ชั่วโมง
2. นำถั่วเหลืองที่ได้ไปปั่นกับน้ำที่เตรียมไว้จนหมด
3. ใช้ผ้าขาวบางกรองน้ำ เพื่อแยกส่วนน้ำกับกากถั่วออก ทำอย่างนี้สัก 2 ครั้ง
4. นำส่วนที่เป็นน้ำนมถั่วที่ได้ขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาล คนให้ละลายจนน้ำนมเดือด
ยกลงและใช้ผ้าขาวบางกรอกอีกครั้ง วางพักไว้ให้เย็นพร้อมดื่ม
การทำนมถั่วเหลือง
thaifoodonline ได้ รวบรวม วิธีทำอาหาร และ สูตรอาหาร จากเว็บไซต์ และ blog ต่างฯ มาไว้ที่นี้
วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
ขนมปังโอวัลติน
เครื่องปรุง
แป้งขนมปัง 5 ถ้วย
น้ำตาลประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ (50 กรัม หรือมากกว่านั้นถ้าชอบหวาน)
ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 3 ฟอง
เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
เนยขาว 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
นมผง 1/4 ถ้วย (3 1/2 ช้อนโต๊ะ)
น้ำประมาณ 1 ถ้วย
โอวัลติน 3 ช้อนโต๊ะ หรือมากกว่านั้นถ้าชอบสีเข้ม
วิธีทำ
ร่อนแป้งแล้วแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนผสมทุกอย่างแบ่งครึ่ง ยกเว้นโอวัลตินนวดแป้งส่วนที่หนึ่งให้เข้ากัน จนเนียน สำหรับส่วนผสมที่2 ใส่โอวัลตินลงนวดเช่นเดียวกันแล้วพักไว้ เอาผ้าชุบน้ำคลุม ให้ขนมปังขึ้น 30 นาที แล้วนำมารีดเอาอากาศออกทั้ง 2 ส่วน จานั้นนำมาคลึงให้เป็นแผ่นบาง ๆ เอาสีขาวไว้ข้างล่างส่วนสีน้ำตาลไว้ข้างบน แล้วม้วนนำไปใส่พิมพ์ที่จะอบ ทิ้งไว้ให้ขึ้นอีกเท่าตัว จึงนำไปอบ โดยใช้ความร้อน 400 องศาฟาเรนไฮด์ ประมาณ 40 นาที จนสุก เอาเนยขาวทาข้าวบน ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาตัดจะเห็นลวดลาย สวยงามดี
ขนมปังโอวัลติน
แป้งขนมปัง 5 ถ้วย
น้ำตาลประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ (50 กรัม หรือมากกว่านั้นถ้าชอบหวาน)
ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 3 ฟอง
เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
เนยขาว 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
นมผง 1/4 ถ้วย (3 1/2 ช้อนโต๊ะ)
น้ำประมาณ 1 ถ้วย
โอวัลติน 3 ช้อนโต๊ะ หรือมากกว่านั้นถ้าชอบสีเข้ม
วิธีทำ
ร่อนแป้งแล้วแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนผสมทุกอย่างแบ่งครึ่ง ยกเว้นโอวัลตินนวดแป้งส่วนที่หนึ่งให้เข้ากัน จนเนียน สำหรับส่วนผสมที่2 ใส่โอวัลตินลงนวดเช่นเดียวกันแล้วพักไว้ เอาผ้าชุบน้ำคลุม ให้ขนมปังขึ้น 30 นาที แล้วนำมารีดเอาอากาศออกทั้ง 2 ส่วน จานั้นนำมาคลึงให้เป็นแผ่นบาง ๆ เอาสีขาวไว้ข้างล่างส่วนสีน้ำตาลไว้ข้างบน แล้วม้วนนำไปใส่พิมพ์ที่จะอบ ทิ้งไว้ให้ขึ้นอีกเท่าตัว จึงนำไปอบ โดยใช้ความร้อน 400 องศาฟาเรนไฮด์ ประมาณ 40 นาที จนสุก เอาเนยขาวทาข้าวบน ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำมาตัดจะเห็นลวดลาย สวยงามดี
ขนมปังโอวัลติน
พายไก่2
เครื่องปรุง
แป้งสาลี 2 ถ้วย
เนย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
มาการีนหรือเนยสด 1/2 ปอนด์
วิธีทำ
แป้งผสม เนย เกลือ น้ำ เคล้ากันพอนุ่ม แผ่แป้งเป็นแผ่น ใส่มาการีนหรือเนยสดลงไป ห่อให้มิด คลึงแผ่เป็นแผ่นพับสี่เหลี่ยมแล้วแช่ตู้เย็น พอเย็นแข็งดีนำมาคลึงใหม่ 4 ครั้ง จนแป้งเข้ากันดี ตัดครึ่งบางๆ ประมาณ 1/2 ซม. กดด้วยพิมพ์กลมๆ เอาเข้าเตาอบใช้ไฟ 400 องศาฟาเรนไฮด์ แป้งจะขึ้นฟองสวย จึงนำมาใส่ไส้
ทำไส้ นำไก่หั่นมารวนให้แห้ง ใส่หอมใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมสัก 2 หัว ใส่ข้าวโพดกระป๋อง 1/2 ถ้วย ถั่วลันเตา นมสด 1/2 ถ้วย แครอทหั่นสี่เหลี่ยม ผัดให้เข้ากัน เติมแป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ แม๊กกี้ พริกไทย ผงชูรส ชิมดูตามชอบ หรือถ้าชอบให้สีสวย ใส่ซอสมะเขือเทศลงก็ได้
แป้งสาลี 2 ถ้วย
เนย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
มาการีนหรือเนยสด 1/2 ปอนด์
วิธีทำ
แป้งผสม เนย เกลือ น้ำ เคล้ากันพอนุ่ม แผ่แป้งเป็นแผ่น ใส่มาการีนหรือเนยสดลงไป ห่อให้มิด คลึงแผ่เป็นแผ่นพับสี่เหลี่ยมแล้วแช่ตู้เย็น พอเย็นแข็งดีนำมาคลึงใหม่ 4 ครั้ง จนแป้งเข้ากันดี ตัดครึ่งบางๆ ประมาณ 1/2 ซม. กดด้วยพิมพ์กลมๆ เอาเข้าเตาอบใช้ไฟ 400 องศาฟาเรนไฮด์ แป้งจะขึ้นฟองสวย จึงนำมาใส่ไส้
ทำไส้ นำไก่หั่นมารวนให้แห้ง ใส่หอมใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมสัก 2 หัว ใส่ข้าวโพดกระป๋อง 1/2 ถ้วย ถั่วลันเตา นมสด 1/2 ถ้วย แครอทหั่นสี่เหลี่ยม ผัดให้เข้ากัน เติมแป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ แม๊กกี้ พริกไทย ผงชูรส ชิมดูตามชอบ หรือถ้าชอบให้สีสวย ใส่ซอสมะเขือเทศลงก็ได้
อิตาเลียนเดรสซิ่ง
ส่วนผสม
หัวหอมแดงสับ ¼ ถ้วยตวง
กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
มะกอกยัดไส้สับ 2 ช้อนโต๊ะ
ทารากอน ½ ช้อนชา
ผักชีฝรั่ง 1 ช้อนชา
น้ำส้มแดง 2 ช้อนชา
น้ำสลัด 1 ถ้วยตวง
เกลือไทย ¼ ช้อนชา
พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
วิธีทำ
1. ต้มทารากอนในน้ำส้มแดงพอเดือด กรองส่วนผสมที่ได้ทิ้งไว้ให้เย็น
2. ผสมส่วนผสมในข้อ1 กับหัวหอมแดง กระเทียม มะกอก ผักชีฝรั่ง เข้าด้วยกัน ใส่น้ำสลัด ผสมให้เข้ากันอีกครั้งปรุงรสด้วยเกลือไทย พริกไทยป่น
หัวหอมแดงสับ ¼ ถ้วยตวง
กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
มะกอกยัดไส้สับ 2 ช้อนโต๊ะ
ทารากอน ½ ช้อนชา
ผักชีฝรั่ง 1 ช้อนชา
น้ำส้มแดง 2 ช้อนชา
น้ำสลัด 1 ถ้วยตวง
เกลือไทย ¼ ช้อนชา
พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา
วิธีทำ
1. ต้มทารากอนในน้ำส้มแดงพอเดือด กรองส่วนผสมที่ได้ทิ้งไว้ให้เย็น
2. ผสมส่วนผสมในข้อ1 กับหัวหอมแดง กระเทียม มะกอก ผักชีฝรั่ง เข้าด้วยกัน ใส่น้ำสลัด ผสมให้เข้ากันอีกครั้งปรุงรสด้วยเกลือไทย พริกไทยป่น
เค้กน้ำผึ้ง
เครื่องปรุง
น้ำผึ้ง 1 ปอนด์
น้ำตาลเม็ดเล็ก 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 8 ฟอง
กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลชงแก่ ๆ 2 ถ้วย
แป้งสาลี 4 ถ้วย
แป้งเชื้อทำขนมเค้ก 1 ช้อนชา
เบกกี้โชดา 1 ช้อนชา
ลูกกระวานป่นละเอียด 1 ช้อนชา
อบเชยป่นละเอียด 1 ช้อนชา
ขิงตากแห้งบดให้ละเอียด 1 ช้อนชา
ลูกจันทน์ป่น 1/2 ช้อนชา
กานพลูป่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
ลูกเกด 1/4 ปอนด์
เมล็ดอัลมันด์ 2 ออนซ์
เนย
วิธีทำ
เอาแป้งสาลีใส่แล่งกรองประมาณ 2-3 ครั้ง จนหมดผง เอาลูกกระวานที่ป่นละเอียดรวมกับ อบเชย ขิง ลูกจันทน์ กานพลู เทรวมกันใส่แล่งกรองเอาแต่ผงที่ละเอียดจริงๆ ที่เป็นกากหยาบ ๆ ใส่ครกป่นให้ละเอียดแล้วกรองใส่รวมกันให้หมด ต่อยไข่ใส่ชามตีด้วยเครื่องตีไข่จนขึ้นฟู แล้วใส่น้ำตาลทีละน้อยตีไปเรื่อย ๆ จนหมดน้ำตาลแล้ว ใส่น้ำผึ้ง แป้งเชื้อ แบกกี้โซดา ผงเครื่องเทศ คนให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำกาแฟดำพร้อมกำลูกเกด คนให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ถาดทาด้วยเนยให้ทั่ว โรยหน้าด้วยเมล็ดอัลมันต์หั่นหยาบๆ ตามยาว ยกเข้าเตาอบ ๆ ด้วยไฟแรงปานกลางจนขนมเหลืองสุก ยกออกทิ้งไว้ให้เย็นตักใส่จานใช้เป็นของหวานรับประทานกับน้ำชา
เค้กน้ำผึ้ง
น้ำผึ้ง 1 ปอนด์
น้ำตาลเม็ดเล็ก 1 ถ้วย
ไข่ไก่ 8 ฟอง
กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลชงแก่ ๆ 2 ถ้วย
แป้งสาลี 4 ถ้วย
แป้งเชื้อทำขนมเค้ก 1 ช้อนชา
เบกกี้โชดา 1 ช้อนชา
ลูกกระวานป่นละเอียด 1 ช้อนชา
อบเชยป่นละเอียด 1 ช้อนชา
ขิงตากแห้งบดให้ละเอียด 1 ช้อนชา
ลูกจันทน์ป่น 1/2 ช้อนชา
กานพลูป่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
ลูกเกด 1/4 ปอนด์
เมล็ดอัลมันด์ 2 ออนซ์
เนย
วิธีทำ
เอาแป้งสาลีใส่แล่งกรองประมาณ 2-3 ครั้ง จนหมดผง เอาลูกกระวานที่ป่นละเอียดรวมกับ อบเชย ขิง ลูกจันทน์ กานพลู เทรวมกันใส่แล่งกรองเอาแต่ผงที่ละเอียดจริงๆ ที่เป็นกากหยาบ ๆ ใส่ครกป่นให้ละเอียดแล้วกรองใส่รวมกันให้หมด ต่อยไข่ใส่ชามตีด้วยเครื่องตีไข่จนขึ้นฟู แล้วใส่น้ำตาลทีละน้อยตีไปเรื่อย ๆ จนหมดน้ำตาลแล้ว ใส่น้ำผึ้ง แป้งเชื้อ แบกกี้โซดา ผงเครื่องเทศ คนให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำกาแฟดำพร้อมกำลูกเกด คนให้เข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ถาดทาด้วยเนยให้ทั่ว โรยหน้าด้วยเมล็ดอัลมันต์หั่นหยาบๆ ตามยาว ยกเข้าเตาอบ ๆ ด้วยไฟแรงปานกลางจนขนมเหลืองสุก ยกออกทิ้งไว้ให้เย็นตักใส่จานใช้เป็นของหวานรับประทานกับน้ำชา
เค้กน้ำผึ้ง
ฟรุตคุกกี้
ส่วนผสม
แป้งเอนกประสงค์ 650 กรัม
ผงฟู เอชฟู้ด 1 ช้อนชา
มาการีน ตราเซสท์โกลด์ 500 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ผงโซดา 1/2 ช้อนชา
ผงโกโก้ 20 กรัม
ไอซิ่ง 200 กรัม
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสับ 150 กรัม
เชอรี่เขียว แดง หั่น 200 กรัม
ลูกเกดหั่น 200 กรัม
กลิ่นนมเนยวินเนอร์
วิธีทำ
- ร่อนแป้ง ผงฟู โซดา และผงโกโก้ รวมกัน พักไว้
- ตีมาการีน ไอซิ่ง และน้ำตาลทรายแดงให้ฟู
- ใส่ไข่ทีละฟอง เติมกลิ่น ลดความเร็วลง ใส่แป้งที่ร่อนไว้ผสมให้เข้ากัน
- เติมเม็ดมะม่วง เชอรี่ ลูกเกด ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
- ตักหยอดเป็นรูปกลม แต่งหน้าด้วยเม็ดมะม่วง กดให้แบน
- นำเข้าอบด้วยความร้อน 375 องศาฟาเรนไฮด์ประมาณ 20 นาที
ฟรุตคุกกี้
แป้งเอนกประสงค์ 650 กรัม
ผงฟู เอชฟู้ด 1 ช้อนชา
มาการีน ตราเซสท์โกลด์ 500 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ผงโซดา 1/2 ช้อนชา
ผงโกโก้ 20 กรัม
ไอซิ่ง 200 กรัม
เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสับ 150 กรัม
เชอรี่เขียว แดง หั่น 200 กรัม
ลูกเกดหั่น 200 กรัม
กลิ่นนมเนยวินเนอร์
วิธีทำ
- ร่อนแป้ง ผงฟู โซดา และผงโกโก้ รวมกัน พักไว้
- ตีมาการีน ไอซิ่ง และน้ำตาลทรายแดงให้ฟู
- ใส่ไข่ทีละฟอง เติมกลิ่น ลดความเร็วลง ใส่แป้งที่ร่อนไว้ผสมให้เข้ากัน
- เติมเม็ดมะม่วง เชอรี่ ลูกเกด ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
- ตักหยอดเป็นรูปกลม แต่งหน้าด้วยเม็ดมะม่วง กดให้แบน
- นำเข้าอบด้วยความร้อน 375 องศาฟาเรนไฮด์ประมาณ 20 นาที
ฟรุตคุกกี้
แฮมครัวซองค์
แฮมครัวซองค์
เครื่องปรุง
แป้งครัวซองค์ 1 ส่วน
แฮมหั่นละเอียด 1 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา
พริกไทย 1/2 ช้อนชา
ไข่ต้มสุกหั่นละเอียด 1 ฟอง
มัสตาร์ดผง 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1.คลึงแป้งครัวซองค์ให้บางประมาณ 1/4 นิ้ว ตัดแป้งเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมด้านเท่าประมาณ 3 นิ้ว แล้วตัดครึ่งทะแยงมุมอีกครั้ง แป้งจะเป็นรูปสามเหลี่ยม
2.นำแฮม ไข่ต้ม เกลือ พริกไทย ลงคลุกผสมให้เข้ากัน เหยาะมัสตาร์ดลงคลุกด้วย
3.วางแป้งลงบนที่คลึงแป้ง ตักไส้แฮมบนลงแป้งม้วนแป้งจากด้านใหญ่ไปหาด้านแหลม จนเป็นรูปแป้งม้วนโค้งมุมแป้งทั้ง 2 เข้าหาตัว เป็นรูปครัวซองค์
4.วางแป้งบนถาดอบทาไขมัน เข้าเตาอบอุณหภูมิ 450 องศาฟาเรนไฮด์ ประมาณ 15 นาที จนเหลืองกรอบ เสิร์ฟร้อน
เครื่องปรุง
แป้งครัวซองค์ 1 ส่วน
แฮมหั่นละเอียด 1 ถ้วย
เกลือ 1/2 ช้อนชา
พริกไทย 1/2 ช้อนชา
ไข่ต้มสุกหั่นละเอียด 1 ฟอง
มัสตาร์ดผง 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1.คลึงแป้งครัวซองค์ให้บางประมาณ 1/4 นิ้ว ตัดแป้งเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมด้านเท่าประมาณ 3 นิ้ว แล้วตัดครึ่งทะแยงมุมอีกครั้ง แป้งจะเป็นรูปสามเหลี่ยม
2.นำแฮม ไข่ต้ม เกลือ พริกไทย ลงคลุกผสมให้เข้ากัน เหยาะมัสตาร์ดลงคลุกด้วย
3.วางแป้งลงบนที่คลึงแป้ง ตักไส้แฮมบนลงแป้งม้วนแป้งจากด้านใหญ่ไปหาด้านแหลม จนเป็นรูปแป้งม้วนโค้งมุมแป้งทั้ง 2 เข้าหาตัว เป็นรูปครัวซองค์
4.วางแป้งบนถาดอบทาไขมัน เข้าเตาอบอุณหภูมิ 450 องศาฟาเรนไฮด์ ประมาณ 15 นาที จนเหลืองกรอบ เสิร์ฟร้อน
น้ำแตงโม
ส่วนผสม
เนื้อแตงโม 50 กรัม ( 5 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 15 กรัม ( 1 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5ช้อนชา)
น้ำเปล่าต้มสุก 150 กรัม (10 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำเนื้อแตงโม น้ำ น้ำเชื่อม เกลือ ใส่ในเครื่องปั่น นำไปปั้นให้ละเอียด ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และวิตามินซี ช่วย ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
คุณค่าทางยาช่วยขับปัสสาวะ ปากเป็นแผล แก้ร้อนใน แก้ กระหายน้ำ
เนื้อแตงโม 50 กรัม ( 5 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 15 กรัม ( 1 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5ช้อนชา)
น้ำเปล่าต้มสุก 150 กรัม (10 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำเนื้อแตงโม น้ำ น้ำเชื่อม เกลือ ใส่ในเครื่องปั่น นำไปปั้นให้ละเอียด ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และวิตามินซี ช่วย ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
คุณค่าทางยาช่วยขับปัสสาวะ ปากเป็นแผล แก้ร้อนใน แก้ กระหายน้ำ
น้ำเชอรี่
ส่วนผสม
เชอรี่ 100 กรัม (7 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
น้ำเปล่าต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม(1/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
เลือกเชอรี่เด็ดก้านล้างให้สะอาด นำไปใส่เครื่องปั่นใส่น้ำต้มครึ่งหนึ่ง ปั่นให้ละเอียดนำไปกรองเอาแต่น้ำ นำน้ำเปล่าต้มสุกส่วนที่เหลือใส่ลง ไปคั้นกับกากเชอรี่ให้แห้งมากที่สุดนำน้ำเชอรี่ที่คั้นได้ใส่น้ำเชื่อมเติมเกลือ ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินซีสูงมาก ช่วยป้องกันโรคเลือดออก ตามไรฟัน
คุณค่าทางยาช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
เชอรี่ 100 กรัม (7 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
น้ำเปล่าต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม(1/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
เลือกเชอรี่เด็ดก้านล้างให้สะอาด นำไปใส่เครื่องปั่นใส่น้ำต้มครึ่งหนึ่ง ปั่นให้ละเอียดนำไปกรองเอาแต่น้ำ นำน้ำเปล่าต้มสุกส่วนที่เหลือใส่ลง ไปคั้นกับกากเชอรี่ให้แห้งมากที่สุดนำน้ำเชอรี่ที่คั้นได้ใส่น้ำเชื่อมเติมเกลือ ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินซีสูงมาก ช่วยป้องกันโรคเลือดออก ตามไรฟัน
คุณค่าทางยาช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
น้ำมะขาม
ส่วนผสม
เนื้อมะขามสด หรือเปียก 20 กรัม (2 ฝักใหญ่)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5ช้อนชา)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำมะขามสดไปลวกในน้ำต้มเดือด ตักขึ้นแกะเอาแต่เนื้อมะขาม นำไป ต้มกับน้ำตามส่วนผสม
ให้เดือด เติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมรสตามชอบ แต่ถ้าใช้มะขามเปียก ควรแช่น้ำไว้สัก 1/2 ชั่วโมง เพื่อให้มะขามเปียก เปื่อยยุ่ยออกมารวมกับน้ำ ก่อนนำไปต้มจนเดือด แล้วปรุงด้วยน้ำเชื่อม และเกลือ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และมีแคลเซียมช่วย บำรงกระดูก รวมทั้งแก้กระหายน้ำ
คุณค่าทางยาช่วยขับเสมหะ แก้ไอ เป็นยาระบายท้อง ช่วยการ ขับถ่ายได้ดี ลดอาการโลหิตจาง ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
เนื้อมะขามสด หรือเปียก 20 กรัม (2 ฝักใหญ่)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5ช้อนชา)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำมะขามสดไปลวกในน้ำต้มเดือด ตักขึ้นแกะเอาแต่เนื้อมะขาม นำไป ต้มกับน้ำตามส่วนผสม
ให้เดือด เติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมรสตามชอบ แต่ถ้าใช้มะขามเปียก ควรแช่น้ำไว้สัก 1/2 ชั่วโมง เพื่อให้มะขามเปียก เปื่อยยุ่ยออกมารวมกับน้ำ ก่อนนำไปต้มจนเดือด แล้วปรุงด้วยน้ำเชื่อม และเกลือ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และมีแคลเซียมช่วย บำรงกระดูก รวมทั้งแก้กระหายน้ำ
คุณค่าทางยาช่วยขับเสมหะ แก้ไอ เป็นยาระบายท้อง ช่วยการ ขับถ่ายได้ดี ลดอาการโลหิตจาง ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
น้ำมะเฟือง
ส่วนผสม
มะเฟืองหั่น 40 กรัม (1 ผลเล็ก)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
น้ำต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
วิธีทำ
ล้างมะเฟืองที่แก่จัดให้สะอาด หั่น แกะเมล็ดออกแล้วนำใส่เครื่องปั่น เติม น้ำสุกปั่นละเอียดแล้วเติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมดูรสตามใจชอบ ถ้าต้องการเก็บ ไว้ดื่ม ให้ตั้งไฟให้เดือด 3-5 นาที กรอกใส่ขวด นึ่ง 20-30 นาที เย็นแล้วเข้า ตู้เย็น จะได้น้ำมะเฟืองสีเหลืองอ่อนๆ ดื่มแล้วชื่นใจ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร น้ำมะเฟืองมีสีเหลืองอ่อนๆ มีกลิ่นหอม ประกอบ ด้วยคุณค่าของวิตามินเอ วิตามินซี ฟอสฟอรัส และแคลเซียมเล็กน้อย
คุณค่าทางยาเป็นยาขับเสมหะ ป้องกันโรคโลหิตจาง ขับปัสสาวะ รวมทั้งป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
มะเฟืองหั่น 40 กรัม (1 ผลเล็ก)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
น้ำต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
วิธีทำ
ล้างมะเฟืองที่แก่จัดให้สะอาด หั่น แกะเมล็ดออกแล้วนำใส่เครื่องปั่น เติม น้ำสุกปั่นละเอียดแล้วเติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมดูรสตามใจชอบ ถ้าต้องการเก็บ ไว้ดื่ม ให้ตั้งไฟให้เดือด 3-5 นาที กรอกใส่ขวด นึ่ง 20-30 นาที เย็นแล้วเข้า ตู้เย็น จะได้น้ำมะเฟืองสีเหลืองอ่อนๆ ดื่มแล้วชื่นใจ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร น้ำมะเฟืองมีสีเหลืองอ่อนๆ มีกลิ่นหอม ประกอบ ด้วยคุณค่าของวิตามินเอ วิตามินซี ฟอสฟอรัส และแคลเซียมเล็กน้อย
คุณค่าทางยาเป็นยาขับเสมหะ ป้องกันโรคโลหิตจาง ขับปัสสาวะ รวมทั้งป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
น้ำมะม่วง
ส่วนผสม
เนื้อมะม่วงดิบ 100 กรัม (ครึ่งผลเล็ก)
น้ำต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
เกลือป่น 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
เตรียมวิธีที่ 1 ใช้มะม่วงดิบ เช่น มะม่วงแก้วหรือมะม่วงแรด เป็นมะม่วง ที่มีรสเปรี้ยวไม่มากนัก จะได้น้ำมะม่วงที่มีรสกลมกล่อม ปอกเปลือกมะม่วงออก ล้างน้ำ สับให้เป็นเส้นๆ เล็กๆ คั้นกับน้ำสุก กรองด้วยผ้าขาวบาง เอากากออก เติม น้ำเชื่อม เกลือป่น ชิมดูตามใจชอบ ใส่น้ำแข็งดื่มจะได้น้ำมะม่วงใส สีขาวนวล มีรส หวานอมเปรี้ยว
เตรียมวิธีที่ 2 ใช้มะม่วงดิบ เหมือนกับวิธีที่ 1 คือสับเนื้อมะม่วงให้เป็น เส้นๆ ปั่นให้ละเอียด เติมน้ำสุก น้ำเชื่อม และเกลือป่นตามต้องการ ชิมดูรสตาม ใจชอบ น้ำมะม่วงที่เตรียมวิธีนี้จะขุ่นขาว เพราะมีเนื้อมะม่วงป่นอยู่
เตรียมวิธีที่3 ใช้มะม่วงสุก ล้างมะม่วงให้สะอาด ปอกเปลือก ฝานเนื้อเข้า เครื่องปั่น เดิมน้ำสุก เติมเกลือเล็กน้อย ชิมดูตามต้องการ ถ้าต้องการหวานให้เติม น้ำเชื่อมลงไป
น้ำมะม่วงควรเตรียมและดื่มให้หมดใน 1 วัน
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกัน โรคเลือดออกตามไรฟันและยังมีฟอสฟอรัส แคลเซียม และเหล็กเล็กน้อย
คุณค่าทางยาเป็นยาระบายอ่อน ๆ
เนื้อมะม่วงดิบ 100 กรัม (ครึ่งผลเล็ก)
น้ำต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
เกลือป่น 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
เตรียมวิธีที่ 1 ใช้มะม่วงดิบ เช่น มะม่วงแก้วหรือมะม่วงแรด เป็นมะม่วง ที่มีรสเปรี้ยวไม่มากนัก จะได้น้ำมะม่วงที่มีรสกลมกล่อม ปอกเปลือกมะม่วงออก ล้างน้ำ สับให้เป็นเส้นๆ เล็กๆ คั้นกับน้ำสุก กรองด้วยผ้าขาวบาง เอากากออก เติม น้ำเชื่อม เกลือป่น ชิมดูตามใจชอบ ใส่น้ำแข็งดื่มจะได้น้ำมะม่วงใส สีขาวนวล มีรส หวานอมเปรี้ยว
เตรียมวิธีที่ 2 ใช้มะม่วงดิบ เหมือนกับวิธีที่ 1 คือสับเนื้อมะม่วงให้เป็น เส้นๆ ปั่นให้ละเอียด เติมน้ำสุก น้ำเชื่อม และเกลือป่นตามต้องการ ชิมดูรสตาม ใจชอบ น้ำมะม่วงที่เตรียมวิธีนี้จะขุ่นขาว เพราะมีเนื้อมะม่วงป่นอยู่
เตรียมวิธีที่3 ใช้มะม่วงสุก ล้างมะม่วงให้สะอาด ปอกเปลือก ฝานเนื้อเข้า เครื่องปั่น เดิมน้ำสุก เติมเกลือเล็กน้อย ชิมดูตามต้องการ ถ้าต้องการหวานให้เติม น้ำเชื่อมลงไป
น้ำมะม่วงควรเตรียมและดื่มให้หมดใน 1 วัน
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงสายตา ป้องกัน โรคเลือดออกตามไรฟันและยังมีฟอสฟอรัส แคลเซียม และเหล็กเล็กน้อย
คุณค่าทางยาเป็นยาระบายอ่อน ๆ
น้ำสับปะรด
ส่วนผสม
น้ำสับปะรด 240 กรัม (1/4 ผลใหญ่)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
นำสับปะรดล้างให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วล้างอีกครั้ง คั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีแคลเซียม และฟอสฟอรัสมากช่วยบำรุงกระดูก และฟันรองลงมามีวิตามินซีช่วยป้องกันโรคเลือด ออกตามไรฟัน
คุณค่าทางยาช่วยย่อยอาหาร ลดอาการแน่นท้อง ลดอาการ อักเสบ บวม ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ ช่วยขับ เสมหะ
น้ำสับปะรด 240 กรัม (1/4 ผลใหญ่)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
นำสับปะรดล้างให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วล้างอีกครั้ง คั้นเอาแต่น้ำ เติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีแคลเซียม และฟอสฟอรัสมากช่วยบำรุงกระดูก และฟันรองลงมามีวิตามินซีช่วยป้องกันโรคเลือด ออกตามไรฟัน
คุณค่าทางยาช่วยย่อยอาหาร ลดอาการแน่นท้อง ลดอาการ อักเสบ บวม ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ ช่วยขับ เสมหะ
น้ำส้มคั้น
ส่วนผสม
ส้มเขียวหวาน 220 กรัม (3 ผลขนาดกลาง)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
นำส้มมาล้างเปลือกให้สะอาดใช้มีดผ่าขวางลูก คั้นเอาแต่น้ำ เติมเกลือ ตักเอาเมล็ดออก ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอมาก ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี ช่วยบำรุง กระดูก และ ฟัน
คุณค่าทางยาป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันโรคเลือดออกตาม ไรฟั
ส้มเขียวหวาน 220 กรัม (3 ผลขนาดกลาง)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
วิธีทำ
นำส้มมาล้างเปลือกให้สะอาดใช้มีดผ่าขวางลูก คั้นเอาแต่น้ำ เติมเกลือ ตักเอาเมล็ดออก ชิมรสตามชอบ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอมาก ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินซี ช่วยบำรุง กระดูก และ ฟัน
คุณค่าทางยาป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันโรคเลือดออกตาม ไรฟั
น้ำกระเจี๊ยบแดง
ส่วนผสม
ดอกกระเจี๊ยบสด/แห้ง 20 กรัม (5 ดอก)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5 ช้อนคาว)
วิธีทำ
1 เอาดอกกระเจี๊ยบสดหรือแห้งก็ได้ ล้างน้ำทำความสะอาดนำใส่หม้อ ต้มจนเดือด แล้วลดไฟลงอ่อน ๆ เคี่ยวเรื่อย ๆ จนน้ำเป็นสีแดง จนเข้มข้น
2. เอาดอกกระเจี๊ยบขึ้นจากหม้อต้ม แล้วเอาน้ำเชื่อมและเกลือใส่ลงไป ปล่อยให้น้ำกระเจี๊ยบเดือด 1 นาที ก็ยกลง ชิมรสตามใจชอบ
3. เอาขวดแม่โขงมาล้างทำความสะอาด ต้มในน้ำเดือด 20 นาที นำ น้ำกระเจี๊ยบแดงมากรอก แล้วปิดจุกให้แน่น เก็บไว้ได้นาน (ควร แช่ในตู้เย็น)
หรืออีกวิธีหนึ่ง นำดอกกระเจี๊ยบมาตากแห้ง แล้วนำมาบดเป็นผง นำผงกระเจี๊ยบครั้งละ 1 ช้อนชา ชงในน้ำเดือด 1 ถ้วย (250 มิลลิกรัม )
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหารให้วิตามินเอสูงมาก ซึ่งช่วยบำรุงสายตารอง ลงมามีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
คุณค่าทางยาช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต เป็นยาระบาย อ่อนๆ และช่วยแก้อาการกระหายน้ำ
ดอกกระเจี๊ยบสด/แห้ง 20 กรัม (5 ดอก)
น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
เกลือป่นเสริมไอโอดีน 2 กรัม (2/5 ช้อนคาว)
วิธีทำ
1 เอาดอกกระเจี๊ยบสดหรือแห้งก็ได้ ล้างน้ำทำความสะอาดนำใส่หม้อ ต้มจนเดือด แล้วลดไฟลงอ่อน ๆ เคี่ยวเรื่อย ๆ จนน้ำเป็นสีแดง จนเข้มข้น
2. เอาดอกกระเจี๊ยบขึ้นจากหม้อต้ม แล้วเอาน้ำเชื่อมและเกลือใส่ลงไป ปล่อยให้น้ำกระเจี๊ยบเดือด 1 นาที ก็ยกลง ชิมรสตามใจชอบ
3. เอาขวดแม่โขงมาล้างทำความสะอาด ต้มในน้ำเดือด 20 นาที นำ น้ำกระเจี๊ยบแดงมากรอก แล้วปิดจุกให้แน่น เก็บไว้ได้นาน (ควร แช่ในตู้เย็น)
หรืออีกวิธีหนึ่ง นำดอกกระเจี๊ยบมาตากแห้ง แล้วนำมาบดเป็นผง นำผงกระเจี๊ยบครั้งละ 1 ช้อนชา ชงในน้ำเดือด 1 ถ้วย (250 มิลลิกรัม )
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหารให้วิตามินเอสูงมาก ซึ่งช่วยบำรุงสายตารอง ลงมามีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน
คุณค่าทางยาช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต เป็นยาระบาย อ่อนๆ และช่วยแก้อาการกระหายน้ำ
น้ำขิง
ส่วนผสม
ขิงสด 15 กรัม (ขนาด 1” x 15” 5 ชิ้น)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำขิงมาปอกเปลือกล้างให้สะอาดหั่นเป็นแว่นใส่หม้อใส่น้ำ ตั้งไฟต้ม น้ำจนเดือดสักครู่ยกลง กรองเอาขิงออก ใส่น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ หรืออีกวิธีหนึ่ง ใช้เหง้าขิงแก่ฝนกับน้ำมะนาว ใช้กวาดคอ หรือใช้ เหง้าขิงสดตำผสมน้ำเล็กน้อย นั้นเอาน้ำและใส่เกลือนิดหน่อยใช้จิบบ่อย ๆ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร พรั่งพร้อมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น มีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และยัง มีสารเบต้า-แคโรทีนอีกด้วยซึ่งช่วยต้านโรคมะเร็ง
คุณค่าทางยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม และขับเสมหะ แก้อาการ คลื่นไส้ อาเจียน เมารถเมาเรือ ช่วยเจริญอาหาร กินข้าวได้นอกจากนั้นยังลดการจับตัวของลิ่มเลือด ช่วยย่อยอาหารโดยเพิ่มการหลั่งน้ำดีและน้ำย่อย ต่าง ๆ ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
ขิงสด 15 กรัม (ขนาด 1” x 15” 5 ชิ้น)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำขิงมาปอกเปลือกล้างให้สะอาดหั่นเป็นแว่นใส่หม้อใส่น้ำ ตั้งไฟต้ม น้ำจนเดือดสักครู่ยกลง กรองเอาขิงออก ใส่น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ หรืออีกวิธีหนึ่ง ใช้เหง้าขิงแก่ฝนกับน้ำมะนาว ใช้กวาดคอ หรือใช้ เหง้าขิงสดตำผสมน้ำเล็กน้อย นั้นเอาน้ำและใส่เกลือนิดหน่อยใช้จิบบ่อย ๆ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร พรั่งพร้อมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น มีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และยัง มีสารเบต้า-แคโรทีนอีกด้วยซึ่งช่วยต้านโรคมะเร็ง
คุณค่าทางยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม และขับเสมหะ แก้อาการ คลื่นไส้ อาเจียน เมารถเมาเรือ ช่วยเจริญอาหาร กินข้าวได้นอกจากนั้นยังลดการจับตัวของลิ่มเลือด ช่วยย่อยอาหารโดยเพิ่มการหลั่งน้ำดีและน้ำย่อย ต่าง ๆ ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
น้ำตะไคร้
ส่วนผสม
ตะไคร้ 20 กรัม (1 ต้น)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำตะไคร้มาล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนสั้น ทับให้แตก ใส่หม้อต้มกับ น้ำให้เดือดกระทั่งน้ำตะไคร้ออกมาปนกับน้ำจนเป็นสีเขียว สักครู่จึงยกลง กรองเอาตะไคร้ออก เติมน้ำเชื่อมชิมรสตามชอบหรืออาจเอาเหง้าแก่ที่อยู่ใต้ดิน ล้างให้สะอาด ฐานเป็นแว่นบาง ๆ คั่วไฟอ่อน ๆ พอเหลือง ชงเป็นชา ดื่มวันละ 3 ครั้ง ๆ ละ 1 ถ้วยชา จะช่วยขับปัสสาวะให้สะดวก
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยัง แคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วย เพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหาร
คุณค่าทางยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับ ปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดีช่วยลดพิษของสารแปลก ปลอมในร่างกาย รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิต
ตะไคร้ 20 กรัม (1 ต้น)
น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำตะไคร้มาล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนสั้น ทับให้แตก ใส่หม้อต้มกับ น้ำให้เดือดกระทั่งน้ำตะไคร้ออกมาปนกับน้ำจนเป็นสีเขียว สักครู่จึงยกลง กรองเอาตะไคร้ออก เติมน้ำเชื่อมชิมรสตามชอบหรืออาจเอาเหง้าแก่ที่อยู่ใต้ดิน ล้างให้สะอาด ฐานเป็นแว่นบาง ๆ คั่วไฟอ่อน ๆ พอเหลือง ชงเป็นชา ดื่มวันละ 3 ครั้ง ๆ ละ 1 ถ้วยชา จะช่วยขับปัสสาวะให้สะดวก
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยัง แคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วย เพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหาร
คุณค่าทางยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับ ปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดีช่วยลดพิษของสารแปลก ปลอมในร่างกาย รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิต
น้ำมะตูม
ส่วนผสม
มะตูมแห้ง 8 กรัม (2 ชิ้น)
น้ำตาลทราย 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำมะตูมแห้งมาล้างให้สะอาด ปิ้งไฟให้หอม นำไปใส่หม้อ เติมน้ำ ตั้ง ไฟเคี่ยวสักครู่ยกลงกรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำตาลทรายตั้งไฟให้ละลาย ชิมรสตามชอบ ยกลง
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางยาเป็นยาระบาย ขับลม ท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร บารุงธาตุ ทำให้ขับถ่ายดี และ เจริญอาหาร ขับ เสมหะ แก้อาการร้อนในได้ดี
มะตูมแห้ง 8 กรัม (2 ชิ้น)
น้ำตาลทราย 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)
วิธีทำ
นำมะตูมแห้งมาล้างให้สะอาด ปิ้งไฟให้หอม นำไปใส่หม้อ เติมน้ำ ตั้ง ไฟเคี่ยวสักครู่ยกลงกรองเอาแต่น้ำ เติมน้ำตาลทรายตั้งไฟให้ละลาย ชิมรสตามชอบ ยกลง
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางยาเป็นยาระบาย ขับลม ท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร บารุงธาตุ ทำให้ขับถ่ายดี และ เจริญอาหาร ขับ เสมหะ แก้อาการร้อนในได้ดี
น้ำเห็ดหลินจือ
ส่วนผสม
เห็ดหลินจือแห้ง 6 กรัม (10 ชิ้น)
น้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ลิตร (2 ขวดโค๊กขนาด 1 ลิตร)
วิธีทำ
1 นำเห็ดหลินจือแห้งและน้ำสะอาดใส่ลงในหม้อเคลือบหรือหม้อดินยิ่งดี
2 ยกขึ้นตั้งบนเตาไฟต้มจนเดือด แล้วหรีไฟลงให้น้ำเดือดปุดๆ ต่อไปประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงยกลง
3 ควรดื่มน้ำสกัดจากเห็ดที่มีอุณหภูมิเท่าอุณหภูมิร่างกาย ให้ดื่มแทนน้ำได้ ทั้งวัน (ดื่มเพื่อสุขภาพ)
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางยา สารอาหารที่มีอยู่ในเห็ดหลินจือ จะเข้าไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ให้ ทำหน้าที่ปกติ และสามารถต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ต้านการจับตัวของ ลิ่มเลือด รวมทั้งลดน้ำตาลในเลือด ฯลฯ
เป็นยาอายุวัฒนะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายเกือบทุกระบบของร่างกาย เช่น
- ระบบไหลเวียนของโลหิต เช่นโรคที่เกิดจากการมีโคเรสเตอรอลในเลือดสูง เส้นเลือดอุดตัน หลอดเลือดแข็งตัว ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง โรคหัวใจ และรอบเดือนไม่ปกติของสตรี
- ระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องผูก ทางเดินอาหารอักเสบเรื้อรัง ริดสีดวงทวาร
- โรคมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
- โรคอื่น ๆ เช่นโรคตับอักเสบโรคไขข้ออักเสบโรคอ้วน อัมพาต อัมพฤกษ์ โรคไตอักเสบ โรคปวดหัวข้างเดียว นอนไม่หลับ และโรคเครียด
เห็ดหลินจือแห้ง 6 กรัม (10 ชิ้น)
น้ำสะอาดอย่างน้อย 2 ลิตร (2 ขวดโค๊กขนาด 1 ลิตร)
วิธีทำ
1 นำเห็ดหลินจือแห้งและน้ำสะอาดใส่ลงในหม้อเคลือบหรือหม้อดินยิ่งดี
2 ยกขึ้นตั้งบนเตาไฟต้มจนเดือด แล้วหรีไฟลงให้น้ำเดือดปุดๆ ต่อไปประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงยกลง
3 ควรดื่มน้ำสกัดจากเห็ดที่มีอุณหภูมิเท่าอุณหภูมิร่างกาย ให้ดื่มแทนน้ำได้ ทั้งวัน (ดื่มเพื่อสุขภาพ)
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางยา สารอาหารที่มีอยู่ในเห็ดหลินจือ จะเข้าไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ให้ ทำหน้าที่ปกติ และสามารถต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ต้านการจับตัวของ ลิ่มเลือด รวมทั้งลดน้ำตาลในเลือด ฯลฯ
เป็นยาอายุวัฒนะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายเกือบทุกระบบของร่างกาย เช่น
- ระบบไหลเวียนของโลหิต เช่นโรคที่เกิดจากการมีโคเรสเตอรอลในเลือดสูง เส้นเลือดอุดตัน หลอดเลือดแข็งตัว ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง โรคหัวใจ และรอบเดือนไม่ปกติของสตรี
- ระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องผูก ทางเดินอาหารอักเสบเรื้อรัง ริดสีดวงทวาร
- โรคมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
- โรคอื่น ๆ เช่นโรคตับอักเสบโรคไขข้ออักเสบโรคอ้วน อัมพาต อัมพฤกษ์ โรคไตอักเสบ โรคปวดหัวข้างเดียว นอนไม่หลับ และโรคเครียด
น้ำฟ้าทะลายโจร
ส่วนผสม
ฟ้าทะลายโจหั่น (ตากแห้ง) 15 กรัม (1 ช้อนชา)
ใบเตยหอมสดหั่น 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้าสะอาด 200 กรัม (14ช้อนคาว)
วิธีทำ
1 เอาฟ้าทะลายหั่นตากแห้ง ใส่หม้อต้ม
2. เอาใบเตยหอมหั่นใส่ลงไปด้วย เพื่อสร้างความหอมและน่าดื่ม
3. ยกขึ้นตั้งบนเตาไฟ ต้มจนเดือด เคี่ยวจนงวด ยกลง เอากากออก แบ่งดื่มวันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางยาช่วยใรคภูมิแพ้ได้ดี แก้ร้อนใน เจ็บคอ ตัวร้อน ปวดหัว ช่วยเจริญอาหาร
ฟ้าทะลายโจหั่น (ตากแห้ง) 15 กรัม (1 ช้อนชา)
ใบเตยหอมสดหั่น 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
น้าสะอาด 200 กรัม (14ช้อนคาว)
วิธีทำ
1 เอาฟ้าทะลายหั่นตากแห้ง ใส่หม้อต้ม
2. เอาใบเตยหอมหั่นใส่ลงไปด้วย เพื่อสร้างความหอมและน่าดื่ม
3. ยกขึ้นตั้งบนเตาไฟ ต้มจนเดือด เคี่ยวจนงวด ยกลง เอากากออก แบ่งดื่มวันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางยาช่วยใรคภูมิแพ้ได้ดี แก้ร้อนใน เจ็บคอ ตัวร้อน ปวดหัว ช่วยเจริญอาหาร
น้ำดอกอัญชัญ
ส่วนผสม
ดอกอัญชัญ 4-5 ดอก(ต่อ 2 แก้ว)
น้ำสะอาด 2 แก้ว
น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
มะนาว (ตามชอบ)
เมื่อได้ส่วนผสมแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือลงมือเด็ดก้านสีเขียวๆที่ติดตรงขั้วออก แล้วนำดอกอัญชัญไปล้างให้สะอาด ระหว่างนั้นก็ตั้งไฟต้มน้ำแล้วใส่ดอกอัญชัญลงไป พอถึงตอนนี้น้ำจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดอก รอให้น้ำเดือดแล้วใส่น้ำตาลตามชอบ เสร็จแล้วน้ำมากรองเอากากออก พักทิ้งไว้ให้เย็น เวลาดื่มให้ใส่น้ำแข็ง แค่นี้ก็จะได้น้ำอัญชัญสีสวยสดใส
สำหรับใครที่ชอบรสเปรี้ยวก็บีบมะนาวตามชอบ สีของน้ำอัญชัญจากสีฟ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีม่วง เวลาดื่มจะได้กลิ่นมะนาวทำให้สดชื่นแถมสีก็ดูสวยแปลกตา เรียกได้ว่าแก้วนี้นอกจากจะมีสรรพคุณทางยาแล้ว ยังเพิ่มสีสันให้ชีวิตอีกด้วย
ดอกอัญชัญ 4-5 ดอก(ต่อ 2 แก้ว)
น้ำสะอาด 2 แก้ว
น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
มะนาว (ตามชอบ)
เมื่อได้ส่วนผสมแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือลงมือเด็ดก้านสีเขียวๆที่ติดตรงขั้วออก แล้วนำดอกอัญชัญไปล้างให้สะอาด ระหว่างนั้นก็ตั้งไฟต้มน้ำแล้วใส่ดอกอัญชัญลงไป พอถึงตอนนี้น้ำจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดอก รอให้น้ำเดือดแล้วใส่น้ำตาลตามชอบ เสร็จแล้วน้ำมากรองเอากากออก พักทิ้งไว้ให้เย็น เวลาดื่มให้ใส่น้ำแข็ง แค่นี้ก็จะได้น้ำอัญชัญสีสวยสดใส
สำหรับใครที่ชอบรสเปรี้ยวก็บีบมะนาวตามชอบ สีของน้ำอัญชัญจากสีฟ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีม่วง เวลาดื่มจะได้กลิ่นมะนาวทำให้สดชื่นแถมสีก็ดูสวยแปลกตา เรียกได้ว่าแก้วนี้นอกจากจะมีสรรพคุณทางยาแล้ว ยังเพิ่มสีสันให้ชีวิตอีกด้วย
น้ำมะระปั่น
ประโยชน์ของน้ำมะระปั่น
มะระ เป็นผักผลที่มีรสชาติขม แต่ในความขมก็มีประโยชน์ วันนี้เกร็ดความรู้เลยมีเรื่องนี้มาฝากกัน...
มะระ เป็นผักผลผิวขรุขระ ที่มีรสขม เน้นที่มะระจีน เพราะเนื้อมะระจีนนี้ประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินบีรวม และเกลือแร่ชนิดต่าง ๆ เหตุที่เนื้อมะระมีรสขม เพราะ มีสารอัลคาร์ลอยด์ชื่อ โมโมดิดิน ช่วยทำให้เจริญอาหาร และเป็นยาระบายอ่อน ๆ สามารถต้านเชื้อไวรัส แถมล่าสุดผลการวิจัยค้นพบว่า มะระขี้นก (ผลเล็ก ๆ ที่แนมกับน้ำพริก )ช่วยต้านเชื้อไวรัส H I V ได้อีกด้วย
วิธีทำน้ำมะระปั่น (จำนวน 3แก้ว)
เนื้อมะระสดหั่นชิ้น 2 ถ้วย
น้ำส้มคั้น 1/2 ถ้วย
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำต้มสุกแช่เย็น 1 ถ้วย
น้ำแข็งบดละเอียด 1 ถ้วย
เลือกมะระจีนแก่จัด ดูที่เปลือกสีเขียวอมขาว ล้างน้ำให้สะอาด ผ่าเอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด เพื่อลดความขมและกลิ่นเหม็นเขียว เมื่อเย็นได้ที่ นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นเข้าด้วยกันให้ละเอียด รินใส่แก้วแล้วดื่ม สูตรนี้ทานแล้วจะช่วยชะลอความแก่ได้อีกด้วย
มะระ เป็นผักผลที่มีรสชาติขม แต่ในความขมก็มีประโยชน์ วันนี้เกร็ดความรู้เลยมีเรื่องนี้มาฝากกัน...
มะระ เป็นผักผลผิวขรุขระ ที่มีรสขม เน้นที่มะระจีน เพราะเนื้อมะระจีนนี้ประกอบด้วยวิตามินซี วิตามินบีรวม และเกลือแร่ชนิดต่าง ๆ เหตุที่เนื้อมะระมีรสขม เพราะ มีสารอัลคาร์ลอยด์ชื่อ โมโมดิดิน ช่วยทำให้เจริญอาหาร และเป็นยาระบายอ่อน ๆ สามารถต้านเชื้อไวรัส แถมล่าสุดผลการวิจัยค้นพบว่า มะระขี้นก (ผลเล็ก ๆ ที่แนมกับน้ำพริก )ช่วยต้านเชื้อไวรัส H I V ได้อีกด้วย
วิธีทำน้ำมะระปั่น (จำนวน 3แก้ว)
เนื้อมะระสดหั่นชิ้น 2 ถ้วย
น้ำส้มคั้น 1/2 ถ้วย
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำต้มสุกแช่เย็น 1 ถ้วย
น้ำแข็งบดละเอียด 1 ถ้วย
เลือกมะระจีนแก่จัด ดูที่เปลือกสีเขียวอมขาว ล้างน้ำให้สะอาด ผ่าเอาเม็ดออก หั่นเป็นชิ้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด เพื่อลดความขมและกลิ่นเหม็นเขียว เมื่อเย็นได้ที่ นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นเข้าด้วยกันให้ละเอียด รินใส่แก้วแล้วดื่ม สูตรนี้ทานแล้วจะช่วยชะลอความแก่ได้อีกด้วย